
นายนพณัฐ ชุมวงค์ (ครูตูมตาม)
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเปร็งวิสุทธาธิบดี
เมล็ดพันธุ์วิทยาศาสตร์ที่เติบโต: จากนักเรียนผู้เข้าประกวด สู่ครูเคมีผู้สร้างแรงบันดาลใจ
เส้นทางที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์และไม่เคยยอมแพ้ในความฝัน ครูตูมตาม ผู้ที่ครั้งยังเป็นนักเรียนมัธยม เคยเข้าร่วมประกวดโครงการการทดลองเคมีแบบย่อส่วนเพื่อเติมเต็มศักยภาพและต่อยอดในเส้นทางสายวิทยาศาสตร์ที่ตนเองหลงใหล จนปัจจุบัน ครูตูมตามได้กลายเป็นครูเคมีผู้ให้คำปรึกษาและผลักดันนักเรียนเข้าร่วมประกวดโครงการการทดลองวิทยาศาสตร์ในเวทีเดียวกัน
แนะนำตัวกันหน่อย
คุณครูนพณัฐ ชุมวงค์ หรือที่เด็ก ๆ มักเรียกว่าครูตูมตาม ปัจจุบันสอนวิชาเคมีระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเปร็งวิสุทธาธิบดี จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นครูที่มากไปด้วยประสบการณ์และหลากหลายบทบาทในสายวิทยาศาสตร์ อาทิ วิทยากรของมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์ฯ (สอวน.) เคมีค่าย 1 วิทยากรเคมีดาวภาคทฤษฎี และวิทยากรเคมีดาวภาคปฏิบัติ เป็นต้น
‘ครู’ ผู้จุดประกายความชอบ
ครูตูมตามชื่นชอบวิชาวิทยาศาสตร์เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ทั้งวิชาฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชอบวิชาเคมีเป็นพิเศษ เพราะได้มีโอกาสเรียนกับคุณครูที่มีความชำนาญและสามารถถ่ายทอดความรู้เคมีให้ออกมาเข้าใจง่าย เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้สนใจศึกษาวิชานี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น มากไปกว่านั้น คุณครูท่านยังเป็นผู้เชิญชวนให้ลองเข้าร่วมประกวดโครงงานเคมีย่อส่วน เพราะความชอบส่วนตัวและต้องการหาประสบการณ์ใหม่ ๆ จึงตกลงเข้าร่วมประกวดอย่างไม่ลังเลและสามารถผ่านเข้ารอบในที่สุด เรื่องราวในวันนั้นเป็นเครื่องยืนยันให้มั่นใจว่าตนเองถนัดและชื่นชอบวิชาเคมีจากใจจริง และเป็นหนึ่งในใบเบิกทางที่นำไปสู่การต่อยอดทางการศึกษาในระดับชั้นมหาวิทยาลัย ก่อนจะมาเป็นครูเคมีในปัจจุบัน

สองบทบาทบนหนึ่งเวที
ในสมัยที่เป็นนักเรียน บทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายบนเวทีประกวดเคมีย่อส่วนคือเป็นผู้อธิบายหลักการของทฤษฎี โดยการทดลองที่เลือกนำมาประกวดคือชุดปฏิบัติการเคมีย่อส่วนอิเล็กโทรลิซิสสารละลายโซเดียมคลอไรด์ ว่าด้วยเรื่องปฏิกิริยาของสารละลายโซเดียมคลอไรด์และแก๊สคลอรีนที่เกิดขึ้นเมื่อใช้น้ำแป้ง รวมถึงการตรวจจับแก๊สอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อเป็นคุณครู ก็เล็งเห็นศักยภาพของโครงการการทดลองเคมีย่อส่วนซึ่งเป็นโครงการที่เน้นความคิดและการออกแบบ นำไปสู่การใช้ต้นทุนที่ต่ำลง และช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการแข่งขัน ทั้งในด้านต้นทุนและอุปกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กที่ไม่มีต้นทุนมากเท่ากับโรงเรียนอื่น ๆ นับว่าเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะช่วยต่อยอดและสร้างเสริมประสบการณ์ที่ดีในการเรียนวิทยาศาสตร์ของเด็ก ๆ จึงไม่ลังเลที่จะผลักดันให้นักเรียนส่งโครงงานวิทยาศาสตร์ไปประกวด โดยที่ตนทำหน้าที่เป็นครูที่ปรึกษาทั้งในส่วนทฤษฎีและการลงมือปฏิบัติจริง
ความเหมือนที่แตกต่าง
ไม่เคยมีครั้งไหนที่ครูตูมตามไม่รู้สึกดีใจที่ได้มีส่วนร่วมกับการประกวดโครงการการทดลองเคมีย่อส่วน ไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน เพียงแต่ในวัยมัธยม ความรู้สึกดีใจนั้นมาจากความรู้ใหม่ ๆ ที่ถูกเติมเต็มจากประสบการณ์ที่มีค่านอกห้องเรียน แตกต่างกับปัจจุบันที่ความรู้สึกดีใจนั้นมาจากการที่เห็นนักเรียนของตนมีความมุ่งมั่นและไม่เคยยอมแพ้ในทุก ๆ กระบวนการการประกวดโครงการดังกล่าว เกิดเป็นความภาคภูมิใจทั้งในตัวนักเรียนและในตัวเอง ที่ไม่เพียงเป็นคุณครูที่สามารถถ่ายทอดความรู้ของตนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นแรงผลักดันและเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่เด็ก ๆ ที่มีใจรักในวิชาเคมีเหมือนกับตนเองในวัยมัธยม

เคมีย่อส่วน ได้ทั้งการศึกษา ได้ทั้งความยั่งยืน เพราะช่วยลดของเสียที่จะตกค้างในสิ่งแวดล้อมด้วย
ขนาดนั้นสำคัญไฉน
ความแตกต่างระหว่างชุดการทดลองเคมีขนาดปกติกับขนาดย่อส่วนอย่างแรกคือ ความกังวลในการทดลอง ชุดทดลองเคมีแบบเดิมมีขนาดใหญ่ มีความเข้มข้นสูง และอุปกรณ์ส่วนใหญ่ทำจากแก้ว นำมาใช้แล้วเกิดความกังวล กลัวว่าหากทำการทดลองผิดพลาดแล้วชุดการทดลองจะเสียหาย หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นจากการทดลอง แต่ไม่เกิดปัญหาลักษณะนี้กับชุดทดลองแบบย่อส่วน เพราะสามารถออกแบบได้เอง โดยลดปริมาณหรือความเข้มข้นลง และสามารถดัดแปลงอุปกรณ์ทดลองแก้วบางชนิดด้วยอุปกรณ์ทดลองที่ทำจากพลาสติกได้ ทำให้ได้ลองผิดลองถูกอย่างเต็มที่โดยไม่มีความกังวลใจ อย่างที่สองคือ เมื่อทดลองเสร็จแล้ว ของเสียที่เกิดขึ้นหลังการทดลองแบบย่อส่วนมีปริมาณน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับชุดการทดลองแบบปกติ จึงเป็นการช่วยลดของเสียที่จะตกค้างในสิ่งแวดล้อมไปด้วย
“ย่อ” การทดลอง เพื่อ “ขยาย” โอกาสทางวิทยาศาสตร์
ครูตูมตามเชื่อว่าการทดลองเคมีย่อส่วนมีผลมาก ๆ ที่ทำให้เด็กนักเรียนสนใจในสายวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นตัวกลางที่สามารถทำให้ทุกคนเข้าถึงการทดลองได้อย่างทั่วถึง โดยคุณครูก็สามารถประยุกต์ใช้ของในชีวิตประจำวันสำหรับการออกแบบหรือดัดแปลงการทดลองต่าง ๆ ได้ เป็นการขยายโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ใกล้ชิดกับวิทยาศาสตร์ โดยทุกคนจะได้ลงมือปฏิบัติจริง ได้จับ ได้ทดลอง ได้สังเกตผล สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจุดกำเนิดของความชอบ แรงบันดาลใจ ที่สามารถพัฒนาต่อยอด ไปเป็นเป้าหมายทางการศึกษา นำไปสู่การตัดสินใจเรียนต่อในมหาวิทยาลัย

ความเป็นวิทยาศาสตร์ คือการทดลอง เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ฝากถึงอนาคตของวงการศึกษาวิทยาศาสตร์
อยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางการศึกษาทุกคน รวมถึงครูและนักเรียน ลองนำเคมีย่อส่วนไปใช้งาน โดยครูออกแบบการเรียนให้นักเรียนได้สัมผัสกับการทดลองจริง จะทำให้นักเรียนรู้สึกว่าการเรียนเคมีสนุก และไม่ยากอย่างที่คิด เด็ก ๆ บางคนไม่ได้เข้าถึงความสนุกของวิชาเคมีเพราะไม่เคยได้ลงมือปฏิบัติ เคยแต่อ่านทฤษฎีในตำราเรียน ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ลองเข้าประกวดโครงการการทดลองเคมีย่อส่วนที่ทุกคนเข้าถึงได้ เป็นอีกหนึ่งโอกาสดีที่สามารถต่อยอดไปสู่เวทีระดับนานาชาติ และสำหรับใครที่อยากศึกษาต่อในสายวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพไหน ขอให้อย่าทิ้งความเป็นวิทยาศาสตร์ นั่นคือการทดลอง หากทดลองโดยตรงไม่ได้ ก็ลองออกแบบการทดลองทางอ้อม ให้ได้เห็นผลการทดลองที่รวดเร็ว ใช้ต้นทุนต่ำ เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
ได้รู้จักครูต้นแบบอย่างครูตูมตามแล้ว เชื่อว่าใครที่มีใจรักในวิชาเคมี คงได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ที่แสนน่าประทับใจของคุณครู ผู้ใช้ความชื่นชอบของตนเป็นพลังสำคัญในการก้าวไปสู่เป้าหมาย จนได้มาเป็นครูเคมีผู้ผลักดันและสนับสนุนให้เด็ก ๆ ทุกคนได้มีโอกาสลงมือทำการทดลองด้วยตัวเอง เพื่อขยายโอกาสทุกความเป็นไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดด้วยพลังของวิทยาศาสตร์
บทความโดย: ปาลิกา สุรำไพ ผู้ช่วยฝ่ายสื่อสารองค์กร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทยแชร์บทสัมภาษณ์นี้