ครูชยวินท์ โฉมงาม
โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง
คุณครูเคมีผู้มีฝัน และไม่เคยหยุดพยายาม
หัวช้า พูดไม่เก่ง คือ ตัวตนสมัยเด็กของ คุณครูชยวินท์ โฉมงาม ครูชำนาญการพิเศษ จากโรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง ที่แท้จริงแล้วใจลึกๆ นั้น เขาอยากเป็นคนที่สื่อสารเก่ง และด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้เขาได้พยายามค้นหาและพัฒนาตัวเอง จนต่อยอดเรียนในระดับมหาวิทยาลัยและกลายมาเป็นครูเคมี ที่สามารถสอนนักเรียนได้อย่างสนุกสนาน รวมถึงยังเป็นครูต้นแบบที่รับหน้าที่อบรมถ่ายทอดการทดลองเคมีแบบย่อส่วนให้กับเพื่อนครูทั้งชาวไทยและต่างประเทศอีกด้วย
แนะนำตัวกันหน่อย
ผมจบจากคณะครุศาสตร์ เอกเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วก็จบจากสถาบันนานาชาติรามคำแหง เอกภาษาอังกฤษ ตอนนี้เป็นครูมา 11 ปีแล้วครับ รับผิดชอบสอนรายวิชาเคมี ม.5 และวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์
จุดเริ่มต้นในการเรียนเคมี เริ่มจากรากฐานที่ดี
ตอนผมเป็นเด็ก ผมเป็นเด็กที่เรียบร้อยมาก เนิร์ดมาก แต่จริงๆ ข้างในใจมันไม่ได้เนิร์ดขนาดนั้นหรอกครับ ใจจริงเราอยากพูด อยากสื่อสารกับคนอื่น พอจบ ม.6 ตัดสินใจได้แล้วว่าเราอยากพูด อาชีพที่ได้พูดมากๆ ก็คือคุณครู แล้วจะเป็นครูอะไรดี ก็รู้สึกว่าวิชาเคมีน่าจะถูกจริตกับเรา ซึ่งหลักการของเคมี คือ ถ้าเราเรียนโดยไม่รู้เบสิค เราจะเรียนไม่รู้เรื่องเลย แต่ผมชอบเคมี เพราะว่า สำหรับคนหัวช้าอย่างผม ถ้าค่อยๆ ตั้งใจเรียน สร้างพื้นฐานที่ดี เราก็จะเริ่มเข้าใจทีละเล็กละน้อย และยังเป็นวิชาที่ได้ทำแล็บ ที่ค่อนข้างสนุก คือตอนเรียนหนังสือ เราอาจจะเรียนรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่การทำแล็บทำให้เราได้ลงมือปฏิบัติ แล้วมันทำให้เราเข้าใจมากขึ้น ก็เลยคิดว่าถ้าเรียนเคมีก็น่าจะต่อยอดได้
รู้ตัวว่าไม่เก่งมาก แต่มีความพยายาม
ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็ยากนะ รู้สึกว่ายากมาก ท้อมาก เรียนไปก็ท้อไป คือผมเรียนที่จุฬาฯ แล้วเพื่อนเก่งๆ เยอะมาก ผมก็จะเป็นคนกลางๆ แล้วเรามีปัญหาว่า ตอนทำแล็บเราจะเป็นคนที่มือไม้สั่น เราก็มองภาพไม่ออกว่าเราจะเป็นครูได้ไหม แต่ความคิดอย่างหนึ่งคือ อย่างน้อยเราก็อยากสอน คือเราชอบในวิชานี้ แล้วเราก็เห็นว่า พอเราเข้ามหาวิทยาลัย เราก็จะต้องมีการอ่านงานวิจัย งานวิชาการ เราก็เลยคิดว่า เราน่าจะมีความรู้ที่จะไปสอนไปพัฒนาเด็กได้ ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคในการใช้เครื่องมือบ้าง ถ้าเรามีความตั้งใจ และมีความรู้ที่จะถ่ายทอด เราก็คิดว่าเราก็อยากจะไปต่อ
ถ้าเรามีความตั้งใจ และมีความรู้ที่จะถ่ายทอด เราก็คิดว่าเราก็อยากจะไปต่อ
ชีวิตครูบรรจุใหม่
การสอนแรกๆ คือ ตื่นเต้น พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่การเป็นครูก็ทำให้เราได้พัฒนาทักษะด้านการพูด พอเราได้สื่อสารกับคนอื่นมากขึ้น ก็ทำให้เราเป็นคนที่พูดรู้เรื่องมากขึ้น อย่างช่วงแรกผมไม่สอนทำแล็บเลย เพราะผมไม่กล้า ก็สอนทฤษฎี เล็คเชอร์อย่างเดียว พอผมย้ายมาอยู่โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง ถึงได้เริ่มรู้จักกับเคมีย่อส่วน เพราะที่โรงเรียนมีคุณครูที่เชี่ยวชาญ ชื่อว่าคุณครูศรัณยู ศรีสมพร แล้วก็คุณครูสราญรมย์ ยิ่งสุข ท่านได้ CST Award การสอนเคมี ม.ปลาย เราเห็นการทดลองของอาจารย์ เราก็ซึมซับ เรียนรู้ เห็นสิ่งแปลกใหม่ อย่างตอนที่อยู่โรงเรียนเดิมเราไม่เคยเห็น ทำให้เราเริ่มพัฒนาตัวเอง เริ่มนำมาปรับใช้กับการสอน
ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง
เมื่อผมทราบว่ามีการแข่งขันประกวด Dow CST Award ซึ่งผมเห็นคุณครูสราญรมย์เขาเคยแข่งมาแล้ว แล้วเขาก็ชักชวนเราเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งเราไม่มีความรู้เรื่องการแข่งเลย แต่เราก็อยากแข่ง ก็อาศัยดูว่าพี่ๆ เขาทำอะไรบ้าง เราก็เริ่มประดิดประดอย เริ่มทำการทดลองของเรา แล้วเรามีคุณครูที่คอยให้คำแนะนำ อย่างท่านอาจารย์ศรัณยู ศรีสมพร ซึ่งปัจจุบันท่านเกษียณไปแล้ว ผมถามอะไรท่านก็ตอบได้หมดเลย ท่านให้คำแนะนำดีมาก ทำให้เรามีกำลังใจที่ดี เหมือนเราอยู่ท่ามกลางครูผู้ให้ มันทำให้เราพัฒนาตัวเองได้เร็ว
การทดลองเคมีย่อส่วนยังทำให้เด็กได้ฝึกแก้ปัญหา
มีทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ ได้ทำงานเป็นทีม
ต่อยอดการศึกษา พัฒนาเด็กไทย ด้วยการทดลองเคมีย่อส่วน
การเรียนผ่านชุดทดลองเคมีย่อส่วน เด็กจะสนุกกับการทดลอง เพราะบางทีเวลาเราสอนบรรยาย เด็กจะหลับ แล้วเด็กจะไม่สนิทกับเรา มันเหมือนมีช่องว่างระหว่างกัน แต่การทำแล็บ ทำการทดลอง ทำให้เราได้ใกล้ชิดเด็กมากขึ้น เวลามีปัญหา เด็กก็จะถามเรา นอกจากนี้ การทดลองเคมีย่อส่วนยังทำให้เด็กได้ฝึกแก้ปัญหา มีทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ ได้ทำงานเป็นทีม อย่างตอนทำการทดลองแค่สารเปลี่ยนสีหรือเกิดตะกอน เด็กเขาก็มีความสุข มีความตื่นเต้น มีปฏิสัมพันธ์ ระหว่างครู นักเรียน ระหว่างเพื่อนนักเรียนด้วยกัน เป็นห้องเรียนที่มีชีวิต
ความฝันของครูเคมีคนหนึ่ง
ความฝันของผม นอกจากทักษะในการทดลอง หรือฝึกปฏิบัติต่างๆ แล้ว ผมอยากให้เด็กๆ เขาเห็นคุณค่าของทรัพยากร เด็กรุ่นนี้เขาเติบโตมาในภาวะโลกร้อน เขาน่าจะได้เรียนรู้ว่าเขาเกิดมาในสังคมที่มีสภาพแวดล้อมแบบไหน เขาควรจะมีความคิดในการใช้ทรัพยากร ใช้สารเคมี หรือการปล่อยของเสียออกสู่ภายนอก เราจะสามารถสร้างจิตสำนึกให้เขาได้รู้คุณค่าของการใช้ทรัพยากรหรือการดูแลสิ่งแวดล้อมยังไง ผมอยากให้เด็กๆ เขาเข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงต้องเรียนเคมีย่อส่วน เพราะเรามีข้อจำกัด และเราสามารถใช้ข้อจำกัดของเรา เป็นข้อได้เปรียบ เรียนให้มีความสุข สนุก เห็นผลการทดลองชัดเจน ใช้เวลาน้อย
ผมอยากให้เด็กๆ เขาเข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงต้องเรียนเคมีย่อส่วนเพราะเรามีข้อจำกัด
และเราสามารถใช้ข้อจำกัดของเรา เป็นข้อได้เปรียบ เรียนให้มีความสุข สนุก เห็นผลการทดลองชัดเจน ใช้เวลาน้อย
เชิญชวนคุณครูทั่วประเทศ มาร่วมโครงการห้องเรียนเคมีดาว
ผมเชื่อว่าครูไทยมีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นครูวิทยาศาสตร์หรือครูเคมี ผมเชื่อว่าเขามีศักยภาพสูงในแต่ละด้าน อยากให้ลองเข้ามาสัมผัส เราจะได้เห็นมุมมอง นอกเหนือจากการทดลองแบบปกติ มาใช้การทดลองเคมีแบบย่อส่วน ได้ทดลองจริง ปฏิบัติจริง เห็นคุณค่า ได้รู้จักเครือข่ายคุณครูทั่วประเทศ ได้รู้จักวิทยากรที่มีศักยภาพสูง รวมถึงกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย
ได้รู้จักครูเคมีต้นแบบคนนี้แล้ว หลายคนน่าจะมีไฟที่จะพัฒนาตัวเอง เหมือนอย่างที่คุณครูชยวินท์ ได้ทำให้เราเห็นแล้วว่า หากมีความพยายาม มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ก็สามารถพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นได้ และความเก่งนี้ ยังช่วยสร้างประโยชน์ให้กับสังคม อย่างที่คุณครูชยวินท์ใช้ความสามารถในการสอนทั้งนักเรียนและเพื่อนครู เหมือนที่ครูเคยได้รับจากคุณครูรุ่นพี่ ที่ส่งต่อพลังบวกให้แก่กันนั่นเอง
แชร์บทสัมภาษณ์นี้